เป้าหมายที่แท้จริงของ iPad ที่เด็กเข้าใจ แต่ผู้ใหญ่มองข้าม

Generation Gap เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะกับ New Media ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวสำหรับเด็กที่ใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีปัจจุบัน แต่เป็นเรื่องไกลตัวสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอำนาจตัดสินใจ และได้เรียนรู้ผ่านลูกๆหลานๆ หรือกระทั่งลูกน้องที่ทำงานอีกที คนต่างยุคต่างสมัยย่อมมีความคาดหวังและสิ่งที่เลือกจะมองเห็นที่ต่างกัน พื้นที่สื่อก็เช่นกันมักเป็นการนำเสนอข่าวสารโดยผู้ใหญ่ ซึ่งมีมุมมองตามยุคสมัยของตน สภาวะที่แท้จริงของ New Media น้อยครั้งจะได้รับความสนใจโดยสื่อพื้นฐานและผู้ใหญ่ทั่วไป จนกระทั่งกาลเวลาได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้ที่เคยเป็นเด็กได้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา และคนรุ่นใหม่ได้แทนที่คนรุ่นเก่าซึ่งอาจถูกเบียดตกเก้าอี้ไปในที่สุด หากจะพูดว่า ธุรกิจบันเทิงเช่นเพลงและหนังกำลังลดความสำคัญลง ในขณะที่ธุรกิจเกมส์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีขนาดใหญ่กว่าสื่อบันเทิงพื้นฐานในหลายประเทศแล้ว คงจะเป็นเรื่องไกลตัวที่เห็นภาพได้ยากสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยเล่นเกมส์เลย ในขณะที่เด็กในยุคปัจจุบันเลือกที่จะเล่นเกมส์มากกว่าที่จะดูหนังฟังเพลงมาระยะหนึ่งแล้ว PricewaterhouseCoopers คาดคะเนว่าธุรกิจเกมส์ในปี 2012 จะมีมูลค่าเกือบ $70,000 ล้าน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าธุรกิจเพลงถึง 5 เท่า เหลือเพียงแต่ธุรกิจหนังที่ยังพอไปไหว แต่ก็คงจะตกกระป๋องให้เกมส์ในที่สุด เกมส์ยักษ์ใหญ่อย่าง World of Warcraft ซึ่งคิดค่าสมาชิก $14.99 ต่อเดือน มีผู้เล่นเกือบ 12 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรประเทศเกือบครึ่งโลก ย้อนกลับมาดูประเทศไทย ลองเอารายได้บริษัทเกมส์กับเพลงมาเปรียบเทียบ อีกไม่นานก็ต้องตามแรงโน้มถ่วงของธุรกิจโลกไปในที่สุด

เรื่องเด็กๆที่ผู้ใหญ่มองข้ามได้กลายมาเป็นธุรกิจที่ใหญ่กว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่คุ้นเคยและเห็นค่า แต่เพราะอะไรผู้ใหญ่หรือกระทั่งสื่อพื้นฐานถึงให้ความสำคัญกับธุรกิจดาวรุ่งเช่นเกมส์น้อยมาก ในขณะที่คอลัมน์บันเทิงยังเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ในสื่อปัจจุบัน

แล้วเรื่องเกมส์เกี่ยวกับ iPad ได้อย่างไร ในขณะที่ผู้ใหญ่และสื่อพื้นฐานกำลังตกสำรวจธุรกิจเกมส์ Apple ได้ผงาดมาเป็นจ้าวตลาดเกมส์มือถือในระยะเวลาอันสั้นหลังจากที่เริ่มทำการตลาด iPhone และ iPod Touch มาเพียงไม่กี่ปี ปัจจุบันมีเกมส์สำหรับ iPhone และ iPod Touch ซึ่งใช้ระบบเดียวกัน กว่า 20,000 เกมส์ ในขณะที่ Nintendo DS ซึ่งเคยเป็นจ้าวตลาด มีราวๆ 3,500 และ Sony PSP มีเพียง 600 ทั้งนี้ Apple ได้เปิดระบบ App Store มาไม่ถึง 2 ปี ในขณะที่ Nintendo DS ได้เปิดตลาดมากว่า 5 ปีแล้ว App Store ได้มีลูกค้าดาว์นโหลดโปรแกรมกว่า 3 พันล้านครั้งในระยะเวลาไม่ถึงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งเกมส์ก็เป็นส่วนสำคัญของโปรแกรมที่ถูกโหลด Apple มีส่วนแบ่งรายได้ถึง 30% ซึ่งเป็น Margin ที่สูงเมื่อเทียบกับการขายเพลงหรือหนังผ่านระบบ iTunes ซึ่งมีปัญหาด้านลิขสิทธิ์และมีการแบ่งรายได้เป็นทอดๆ นอกเหนือจากนี้ Apple สามารถขายเกมส์ผ่าน App Store ได้โดยตรงแบบ Over The Air โดยไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางในรูปแบบของร้านค้าที่ขายตลับหรือแผ่นดิสค์ของ Nintendo DS หรือ Sony PSP iPhone และ iPod Touch ยังมีเทคโนโลยี Multi-Touch ซึ่งปฏิวัติรูปแบบของการเล่นเกมส์โดยอาศัย Touch Screen อีกด้วย ล่าสุดมียอดจำหน่ายของอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ iPhone และ iPod Touch ถึง 75 ล้านเครื่อง จึงไม่เหนือความคาดหมายที่บริษัทเกมส์ชื่อดังเช่น id Software และยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเช่น Square Enix, Capcom หรือกระทั่ง Konami ประกาศทุ่มพัฒนาเกมส์สำหรับ iPhone หรือ iPod Touch

ด้วยความสำเร็จของ iPhone และ iPod Touch จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Apple ได้เปิดตัว iPad โดยเลือกใช้ระบบ Operating System รวมทั้ง App Store เดียวกัน แทนที่จะเลือกใช้ระบบพื้นฐานเดียวกับ MacBook หรือเครื่อง Macintosh ทั่วๆไป ทั้งนี้หมายความว่าเกมส์กว่า 20,000 เกมส์ รวมทั้งช่องทางการซื้อขายเกมส์ที่กล่าวมาแล้วสามารถใช้กับ iPad ได้ทันที ผู้พัฒนาเกมส์ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสมกับ Hardware ที่ดีกว่าและจอที่ใหญ่กว่าของ iPad ได้อีก ซึ่งอาจทำให้รูปแบบของเกมส์เข้มข้นขึ้นและแตกต่างกับเกมส์ฆ่าเวลาบน iPhone และ iPod Touch ถึงแม้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับ Hardware จะยังปรากฎไม่มาก แต่บริษัทที่พัฒนาเกมส์บนบนระบบ iPhone และ iPod Touch ต่างแสดงความตื่นเต้นสนใจและมองว่าเป็นการต่อยอดสู่การนำเสนอเกมส์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นไปอีก

สำหรับธุรกิจเกมส์ที่กำลังขยายตัวและมีส่วนแบ่งรายได้อย่างเต็มหน่วย Apple จะให้ความสำคัญน้อยไปกว่าธุรกิจเพลงและหนังหรือ ในเมื่อนวัตกรรมก่อนหน้านี้คือ iPhone และ iPod ก็ได้ทำให้บริษัทเป็นผู้เล่นในวงการเกมส์ที่สำคัญไปแล้ว สำหรับ Apple แล้ว iPad จึงน่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายฐานการตลาดให้มากขึ้นไปอีก การออกแบบและฟังชั่นพื้นฐานของ iPad ถูกถอดแบบมาจาก iPhone เกือบหมด เทรนด์การใช้งานของ iPad ก็สมควรจะถูกถอดแบบมาเช่นกัน ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ดี Apple ไม่ได้ประกาศ Positioning ของ iPad เป็นอุปกรณ์เล่นเกมส์โดยเฉพาะ คงเป็นเช่นเดียวกับ iPhone หรือ iPod Touch ซึ่งมี Positioning เป็น สมาร์ทโฟน เครื่องเล่น MP3 และอุปกรณ์เอนกประสงค์อื่นๆด้วยความสามารถของ Touch Screen และ App Store อาจเป็นเพราะว่าApple ต้องการขยายฐานการตลาดของ iPad ให้ได้มากที่สุด จึงไม่เฉพาะเจาะจง Positioning เป็นอุปกรณ์เฉพาะอย่าง แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังมองไปทางอื่น iPad อาจจะช่วย Apple ยึดครองตลาดเกมส์ได้โดยปริยาย

หากท่านผู้อ่านเป็นเด็กเรื่องนี้คงไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่หากท่านเป็นผู้ใหญ่ โปรดลองสังเกตุว่าบุตรหลานของท่านใช้เวลาว่างกับอะไร เล่นเกมส์หรือดูหนังฟังเพลงมากกว่ากัน ลองสังเกตุดูว่า ผู้ที่ใช้ iPhone กับ iPod Touch ใช้ฟังเพลงหรือดูหนังอย่างเดียวหรือเปล่า เคยสังเกตุพฤติกรรมการเล่นเกมส์หรือไม่ ความเปลี่ยนแปลกในโลก New Media อาจใกล้ตัวและสังเกตุได้ง่ายกว่าที่คุณคิด

Published in Krungthepturakij on March 2, 2010