3G และ WiFi ไม่ใช่บริการทดแทน
/ปีนี้เป็นปีที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ที่จะมีผลสำคัญต่อพัฒนาการทางด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ มีทั้งการเริ่มให้บริการ 3G อย่างทั่วประเทศ และการเริ่มให้บริการ 100 Mbps Ultra Hi-Speed Internet ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่จะมีโอกาสก้าวทันประเทศเพื่อนบ้าน และนานาอารยะประเทศ ทางด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารโทรคมนาคม แต่ถึงกระนั้น การชิงพื้นที่ให้บริการ WiFi ถึงจะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่ก็เป็นคลื่นใต้น้ำที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะ WiFi แม้จะเป็นเทคโนโลยีไร้สาย เช่นเดียวกับ 3G แต่สามารถให้ความเร็วที่สูงกว่า WiFi ที่มีให้บริการอยู่ในประเทศไทย ให้ความเร็วได้ถึง 8 Mbps ในขณะที่ 3G โดย HSPA (3.5G) ให้ความเร็วได้ถึง 7.2 Mbps แต่การใช้งานจริงอาจมีความแตกต่าง และ 3G มีความคงที่ ที่ไม่เท่าเทียมกับ WiFi ข้อดีของ 3G คือการครอบคลุมที่กว้างไกลและทั่วถึงกว่า ส่วนข้อดีของ WiFi คือความเร็วที่สูงและคงที่กว่า
ความแตกต่างเช่นนี้ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น หากเปรียบเทียบบริการในระบบของ Smartphones เช่น iPhones จะเห็นได้ว่า มีหลายบริการเช่น FaceTime ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้ความเร็วที่สูงกว่า กลับถูกบังคับให้ใช้ได้เฉพาะกรณีที่มี WiFi นอกไปจากนี้ บริการของ YouTube บน iPhones ยังเลือกให้บริการวีดีโอที่มีความชัดสูงกว่า หากใช้บริการจาก WiFi และ iPhones ยังบังคับให้การ Download Apps ที่มีขนาดมากกว่า 20 MB ต้องผ่าน WiFi เท่านั้น จะเห็นได้ว่า มีการจำกัด Quality of Services ระหว่าง WiFi และ 3G อย่างชัดเจน
Smartphones ในปัจจุบัน จะเลือกใช้ Internet ที่ความเร็วสูงกว่า อย่างอัตโนมัติ โดยจะเลือกเป็น WiFi, 3G, Edge และ GPRS ตามลำดับ สำหรับผู้ใช้งาน ที่เลือกใช้ผู้ให้บริการที่มีครบทุกอย่าง เช่น WiFi, 3G และ 2G อย่างเป็น Convergence จะมีประสบการณ์การใช้งานอย่างไร้รอยตะเข็บ ในขณะที่การเลือกใช้ผู้ให้บริการที่มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง จะไม่สามารถใช้ Smartphones ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะพลาดโอกาสสำคัญ ในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างเต็มรูปแบบ
AT&T เป็นผู้ให้บริการ iPhones รายแรกของโลก โดยได้เคยเน้น 3G เป็นหลัก แต่เนื่องจาก Smartphones ยุคใหม่ ส่งเสริมการใช้งาน Data และ Content ที่เพิ่มความเข้มข้น ในระยะเวลาอันสั้น AT&T ต้องขยายการลงทุนใน WiFi เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพ ของการให้บริการ Internet ความเร็วสูงอย่างไร้สาย ให้ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้งาน และเป็นบทเรียนครั้งแรกที่พิสูจน์ว่า การให้บริการ 3G แต่เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริงในยุคปัจจุบัน ซึ่งจำเป็นต้องเสริมด้วย WiFi
ถึงแม้ประเทศไทยจะอยู่ในช่วงแรกเริ่มของการให้บริการ 3G อย่างทั่วประเทศ แต่ 3G ก็ได้มีให้บริการในกรุงเทพมาระยะเวลาหนึ่ง และ WiFi ก็มีการครอบคลุมอย่างหนาแน่น โดยบริษัททรูมี WiFi Hotspots ทั้งหมด เกือบ 20,000 จุด ทำให้กรุงเทพเป็นหนึ่งในมหานคร ที่มี WiFi หนาแน่นที่สุดในโลก และระยะหลังได้เริ่มมีการแข่งขันจากผู้บริการอื่นๆ ที่พยายามเพิ่มจำนวน WiFi Hotspots ที่มีให้บริการ จึงเป็นโชคดีสำหรับประเทศไทย ที่ิมิได้เสียเปรียบในเรื่อง WiFi
สำหรับผู้บริโภค และผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการประสบการณ์ อย่างสมบูรณ์แบบ ในการใช้งาน Internet อย่างไร้สาย ผ่าน Smartphones หรือ อุปกรณ์อื่นๆ 3G และ WiFi ไม่ใช่บริการที่ทดแทนกันได้ แต่เป็นบริการที่เกื้อหนุนกัน สำหรับการใช้งานอย่างไร้รอยตะเข็บ ในขณะที่ทั้งประเทศกำลังให้ความสนใจกับสิ่งใหม่ๆ เช่น 3G หรือ Ultra Hi-Speed Internet เทคโนโลยี WiFi ยังเป็นคลื่นใต้น้ำที่มีความสำคัญ และไม่ควรมองข้าม
Published in Transport Journal in April 2011