Wearable Devices เทรนด์นี้อย่าพลาด

สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้งหนึ่ง ทั้งในโลกแห่งนวัตกรรมและโลกแห่งเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ การขายหุ้นเข้าตลาดเป็นครั้งแรก (IPO) ของ FitBit ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับสวมใส่ในยุคดิจิตอล (Wearable Devices) อันดับหนึ่งของโลก ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงกว่า 50% ในปี 2014 ที่ผ่านมา และอัตราการเติบโตของยอดขาย ที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ ที่น่าสังเกตุอีกประการหนึ่ง คือเรามักจะได้ยินถึงเรื่องราวที่น่าติดตามของธุรกิจสตาร์ตอัพทางด้านซอฟท์แวร์ ที่ได้ประสบความสำเร็จถึงขั้น IPO ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่น้อยครั้งที่จะได้ยินถึงเรื่องราวของความสำเร็จในธุรกิจสตาร์ตอัพทางด้านฮาร์ดแวร์ เช่นดัง FitBit

Wearable Devices เป็นเทคโนโลยี ที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมี Fitness Trackers ในรูปแบบของสายรัดข้อมือ ที่ผลิตโดย FitBit, Jawbones และ Nike เป็นผู้ที่บุกเบิกตลาดอย่างประสบความสำเร็จ

วิวัฒนาการของ Fitness Trackers แบบสายรัดข้อมือนั้น ได้เริ่มต้นมาจาก Sensor สำหรับการวัดก้าวเดินของผู้ที่สวมใส่ ที่สามารถประมวลผลเป็นข้อมูลของระยะทางที่เดิน ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ ฯลฯ แต่ในปัจจุบัน ได้มี Sensor ที่สามารถรับสัญญานตำแหน่งจาก GPS และ Sensor ที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้โดยตรง

จุดสังเกตุประการหนึ่งของ Wearable Devices คือการที่ไม่ได้แย่งชิงบทบาทของสมาร์ทโฟน แต่เป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง ที่ต้องอาศัยสมาร์ทโฟนในการเข้าถึงคลาวด์ และเป็นความชัดเจนของอุปกรณ์ในยุคใหม่ ที่ยืดถือสมาร์ทโฟนเป็นศูนย์กลางแทนที่จะเป็นคอมพิวเตอร์หรือแลปทอปจากยุคก่อนหน้า

ความสำเร็จของ FitBit แม้จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จากเซเลบริตี้ระดับโลก อย่างเช่นประธานาธิบดี บารัค โอบามา แต่ธุรกิจ Fitness Trackers กำลังจะเข้าสู่ยุคของการแข่งขันอย่างดุเดือด จากผู้เล่นจากจีนอย่างเช่น Xiaomi ที่กำลังบุกตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ ที่ราคาต่ำและเข้าถึงได้โดยผู้บริโภคส่วนมาก

แต่ถึงกระนั้น การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ที่อาจถึงขั้นของการแตกกระจายของอุตสาหกรรม (Disruptive Innovation) กลับเป็นนวัตกรรมของสมาร์ทวอทช์ ที่พึ่งได้รับการปฏิรูปโดย Apple Watch ภายหลังจากการบุกเบิกตลาดอย่างไม่ประสบความสำเร็จโดยสมาร์ทวอทช์ในระบบ Android ที่ได้อยู่ในตลาดมาหลายปีแล้ว แต่ไม่สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดของ Wearable Devices ไปจาก Fitness Trackers ได้เลย

Apple Watch ที่ได้เปิดตัวไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มียอดขายอย่างถล่มถลาย ที่บ่งชี้ถึงความสามารถในการช่วงชิงยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดไปจาก FitBit และกระทั่ง Fitness Trackers เกือบทั้งหมด ในช่วงเวลาเพียงพริบตา

สมาร์ทวอทช์ เช่นดัง Apple Watch ได้ควบรวมความสามารถของ Fitness Tracker ไปเกือบทั้งหมด แม้กระทั่ง Sensor สำหรับวัดการเต้นของหัวใจ ที่ Fitness Trackers ส่วนมากยังขาดอยู่ ทั้งยังมีศักยภาพเพิ่มเติม ที่ได้มาจากเทคโนโลยีของ iPhones เช่นระบบสัมผัส หน้าจอที่ใหญ่กว่า แอ็พ ฯลฯ อย่างไรก็ดี สมาร์ทวอทช์ เช่นเดียวกับ Wearable Devices ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแย่งชิงบทบาทของสมาร์ทโฟนเลย

สำหรับผู้เขียนเอง ยังไม่เคยมีประสบการณ์โดยตรงกับ Apple Watch แต่ Fitness Trackers อย่างเช่น FitBit ยังคงมีประโยชน์อยู่ เพราะมี Sensors ที่มีศักยภาพสูงกว่า ที่ตรวจวัดข้อมูลได้ละเอียดกว่า สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับกีฬาอย่างแท้จริง มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานกว่า ทำให้สามารถสวมใส่เพื่อวัดข้อมูลเวลานอนได้ มีขนาดที่เล็กกว่า และยังทำให้สามารถสวมใส่นาฬิกายุคโบราณ-ปัจจุบัน ตามแต่รสนิยมของผู้สวมใส่

สำหรับผู้ที่เล่นกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรยาน ย่อมต้องทราบดีว่า Fitness Trackers แม้กระทั่งของ FitBit ยังไม่มีความสามารถที่เหมาะสมในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่วัดข้อมูลของจักรยาน จึงเป็นโอกาสที่สำคัญของ Apple Warch ที่จะอุดช่องว่างนี้

แต่ที่แน่นอน Wearable Devices เป็นเทรนด์ที่มาแล้ว และไม่ควรพลาด ซึ่งแม้แต่การปรับปรุงเส้นทางรถจักรยานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยธนาคารไทยพาณิชย์ ก็จะมีอุปกรณ์ Wearable Devices มาให้นักปั่นจักรยานใช้กัน โดยเรียกเป็น สายรัดข้อมืออัจฉริยะ เพื่อใช้อัพเดตข้อมูลต่างๆ เป็นบัตรเข้าออก และแทนเงินสดได้อย่างปลอดภัย

Published in Krungthepturakij on June 23, 2015