เมื่อ Facebook ทำ Search Engine

สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวลือของการทำ Search Engine โดย​ Facebook ได้กระฉ่อนใน Headquarter ของ Google ปัญหาของ Google คือโครงสร้างของเทคโนโลยีและธุรกิจ ที่เกิดขึ้นมาในยุคแรกของ Internet เช่นเดียวกับ Yahoo!, MSN ฯลฯ เมื่อครั้งที่ Web ยังเป็นเทคโนโลยีสำหรับการสื่อสารทางเดียว และ Web 2.0 เช่น Social Media หรือ Social Networks ยังมิได้ถือกำเนิด

ปัจจุบัน Social Media และ Social Networks ได้เปลี่ยนเป็น Mainstream รูปแบบของการใช้งานใหม่ๆ เช่น Like Button, Retweet, Realtime Web ฯลฯ ได้กลายเป็นสิ่งคุ้นเคย Google ต้องยกเครื่องตัวเอง (Re-Architect) ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อติดตามให้ทันกับวิวัฒนาการณ์ของ Internet แต่ถึงกระนั้น โครงสร้างที่สำคัญของ Google คือ Page Rank (PR) ซึ่งส่งผลสำคัญต่อลำดับของแต่ละ Web ในผล Search ยังคงยึดติดกับแนวทางของ Internet ในยุคแรก และมิได้สอดคล้องกับความเป็น Web 2.0 ในยุคปัจจุบัน

Page Rank คือการให้คะแนนความสำคัญของแต่ละ Web ซึ่ง Web ที่ Page Rank สูงกว่า จะถูกแสดงเป็นลำดับแรกๆ ในผล Search สำหรับ Google แล้ว Page Rank ถูกคำนวนขึ้นจากจำนวน Link ของ Web อื่นๆ ที่โยงมาสู่ Web นี้ และจาก Page Rank ของเว็บเหล่านั้น จะเห็นได้ว่า Page Rank ถูกกำหนดโดยกลุ่มเจ้าของ Web (Publishers) ด้วยกันเอง ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้ Web กลับไม่มีสิทธิมีเสียงในการในการกำหนด Page Rank ทั้งๆที่เป็นผู้บริโภคผล Search ที่แท้จริง

ใน Web 2.0 ผู้ใช้สามารถแชร์ได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ ตัวหนังสือ ภาพ เสียง วีดีโอ ลิงค์ ฯลฯ ไม่ถึงปีที่ผ่านมา Facebook ได้เปิดตัว Like Button (ปุ่มชอบ) ที่ผู้ใช้สามารถแชร์ความชอบที่มีต่อ Web ต่างๆ เพื่อแนะนำให้เพื่อน หรือผู้ที่ติดตามสามารถเข้าชม Web เหล่านี้ได้ แรกเริ่ม Like Button อาจถูกมองเป็นระบบที่พัฒนากว่าของการ Retweet แต่ปัจจุบัน Like Button กลับเป็นคลังข้อมูลที่มีมูลค่ามหาศาลต่อการทำ Datamining เพราะได้เป็นการจัดอันดับความสำคัญของแต่ละเว็บโดยผู้ใช้ Facebook กว่า 600 ล้านคนทั่วโลก หรือ 8.5 ล้านคนในประเทศไทย ซึ่งย่อมจะดีกว่าการกำหนด Page Rank โดยกลุ่มเจ้าของ Web เท่านั้น

สัปดาห์ที่ผ่านมาอีกเช่นกัน Google ได้ประกาศ "+1" หรือ Google Like Button สำหรับให้คะแนนแต่ละ Web ในผล Search และอาจนำมาใช้ร่วมการคำนวน Page Rank นี่เป็นอีกครั้งที่ Google ต้อง Rearchitect ตัวเอง ให้เข้ากับ Internet สมัยใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็น Web 2.0

อย่างไรก็ดี ​Facebook กลับมีฐานข้อมูลของผู้ใช้ที่สมบูรณ์ยิ่งกว่า Google และยังเป็นข้อมูลที่ผู้ใช้อาสาสมัครเข้าไปเอง ซึ่งรวมถึงการเชื่อมต่อกัน หรือการเป็นเพื่อนระหว่างผู้ใช้ ข้อมูลเหล่านี้กลับทำให้ Facebook ยิ่งได้เปรียบเมื่อนำมาประจวบรวมกับฐานข้อมูลของ Like Button เพราะ Web ที่ถูกชอบโดยคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันย่อมมีความสำคัญน้อยกว่า Web ที่ถูกชอบโดยคนที่มีความสัมพันธ์กัน

Page Rank คือ Innovation จาก 12 ปีที่แล้วที่ทำให้ Google ก้าวมาเป็นผู้นำในด้าน Search Engine แต่พฤติกรรมการใช้ Internet ได้ถูกพัฒนาป็น Web 2.0 ในวันนี้ และทำให้ Like Button ของ Facebook กลายเป็นอาวุธใหม่ที่สามารถลบล้างข้อได้เปรียบเดิมของ Google

แต่ถึงกระนั้น Facebook ได้ปฎิเสธข่าวลือของการทำ Search Engine และ Google ก็อาจมีโอกาสหายใจอีกช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนหน้านี้ Guru ในวงการได้มองว่าโลก Internet จะเป็นการแบ่งเค้กระหว่าง Google และ Facebook แต่หากพิจารณาใหม่ตามบทความนี้แล้ว ใน 3-5 ปีข้างหน้า อาจเป็นการกินเค้กคนเดียวโดย Facebook ก็เป็นไปได้

Published in Krungthepturakij on April 4, 2011