การรับผิดในยุคดิจิทัล
/ในสังคมไทย มักจะมีการเรียกร้อง ให้ธุรกิจดิจิทัล ต้องมามีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อการกระทำผิดโดยผู้บริโภค
ซึ่งเป็นเรื่องแปลก เพราะในต่างประเทศ มีการกำหนดขอบเขตการรับผิดของธุรกิจอย่างชัดเจน ต่อการกระทำที่เกิดขึ้นโดยผู้บริโภคของธุรกิจ
พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฯ ๒๕๕๐ มาตรา ๑๕ ได้กำหนดให้ธุรกิจดิจิทัล เช่น เฟสบุ๊ค และ ยูทูป ต้องถูกระวางโทษเช่นเดียวกับผู้บริโภคที่กระทำความผิดผ่านบริการของตน
เช่นว่า เมื่อผู้ใช้งาน ได้นำเสนอวีดีโอที่ผิดกฎหมาย ผ่านระบบของยูทูป บริษัทยูทูป ก็ต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับผู้ใช้งานที่กระทำผิด
อย่างไรก็ดี ร่าง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฯ ฉบับใหม่ ที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของ สนช. ได้ปรับปรุงแก้ไข มาตรา ๑๕ ฯลฯ ให้เป็นที่สอดคล้องกับรูปแบบของสากลยิ่งขึ้น โดยใช้หลักที่ว่า ธุรกิจดิจิทัลจะมีความผิดก็ต่อเมื่อให้ความร่วมมือ ยินยอม และรู้เห็นเป็นใจ กับผู้บริโภคที่กระทำความผิดเท่านั้น
แต่ในวันนี้ สังคมไทยได้มีข้อถกเถียงกันในประเด็นใหม่ นั่นก็คือ ขอบเขตการรับผิดของผู้ให้บริการ โปเกม่อน โก ต่อสิ่งที่ถูกกระทำขึ้นโดยผู้เล่นของเกม
เรื่องนี้ นับว่าละเอียดอ่อน และเข้าใจได้ยากยิ่งกว่า กรณีของ เฟสบุ๊ค และ ยูทูป vs. พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฯ ๒๕๕๐ เพราะมีความเชื่อมโยง ระหว่างการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในโลกคอมพิวเตอร์โดยผู้ให้บริการ กับการประพฤตและปฏิบัติในโลกจริงโดยผู้เล่นเกม
และที่สำคัญ โปเกม่อน โก ไม่ได้ปล่อย โปเกม่อน เข้ามาในสถานที่จริงแต่อย่างใด เพียงแต่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในโลกคอมพิวเตอร์ โดยระบุตำแหน่งโปเกม่อนลงบนแผนที่ในโลกจำลองเท่านั้น
ในอีกกรณีหนึ่ง ที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียงอีกเช่นกัน นั่นคือการรับผิดของธุรกิจต่อสิ่งที่ถูกกระทำขึ้นโดยระบบสมองกลที่ถูกคิดค้นโดยธุรกิจ แต่คราวนี้กำลังเป็นประเด็นถกเถียงในระดับโลก
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา โดยหลายฝ่ายได้มุ่งประเด็นไปที่ระบบสมองกลของรถยนต์เทสล่า ที่ควบคุมรถยนต์ผิดพลาดจนกระทั่งมีผู้เสียชีวิต
ในเดือนนี้ ได้เกิดอุบัติเหตุอีกครั้งหนึ่ง กับรถยนต์เทสล่า ในประเทศจีน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และในครั้งนี้อีกเช่นกัน หลายฝ่ายได้มุ่งประเด็นสู่ความผิดพลาดของระบบสมองกล จนกระทั่งบริษัทเทสล่า ต้องหยุดประชาสัมพันธ์ระบบสมองกลบนเว็บไซต์ของบริษัท
และในเดือนนี้อีกเช่นกัน ได้เกิดอุบัติเหตุจากความผิดพลาดของระบบสมองกลของรถเทสล่าในสหรัฐอเมริกา ในกรณีนี้ แม้ผู้โดยสารจะไม่เสียชีวิต และไม่ติดใจที่จะเอาความกับบริษัทเทสล่า แต่กำลังเป็นที่จับตาว่าบริษัทประกันภัยจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทเทสล่า
หากคดีความเข้าสู่ระบบศาล จะเป็นครั้งแรกในสหรัฐ ที่จะมีการติดสินว่า ธุรกิจรถยนต์ จะต้องมีความรับผิดชอบมากน้อยเพียงใดต่อการกระทำของระบบสมองกลที่ถูกคิดค้นโดยธุรกิจ และจะเป็นบรรทัดฐานที่จะถูกใช้ต่อไป
ซึ่งหากบริษัทเทสล่า ถูกตัดสินให้รับผิด ต่อไปทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุจากความผิดพลาดของระบบสมองกล ผู้ผลิตรถยนต์เช่นเทสล่า จะต้องรับผิดด้วยทุกครั้ง และน่าจะเป็นภาระของความรับผิดชอบทางกฎหมาย ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเทคโนโลยีสมองกลต่อไป ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย
เป็นกรณีที่สมควรติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศไทย ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังสนับสนุนนโยบายรถใช้พลังงานไฟฟ้า แต่เทคโนโลยีที่หลายครั้งมักจะมาควบคู่กัน คือระบบสมองกล เช่นในตัวอย่างของเทสล่า ซึ่งประเทศไทย อาจต้องมีการพัฒนากฎระเบียบทางด้านสมองกล ในธุรกิจรถยนต์ ที่มีโอกาสผิดพลาดจนกระทั่งมีผู้เสียชีวิต เพราะประเทศไทย มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่สูง
การรับผิดในยุคดิจิทัล เป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน และมีหลายประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงในสังคมไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เทคโนโลยี มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วกว่าบริบทของกฎหมาย แต่บางกรณี ก็เป็นข้อถกเถียงในระดับโลก ที่สมควรติดตาม
Published in Krungthepturakij on August 30, 2016